สัมภาษณ์พิเศษเส้นทางเศรษฐี นิตยสารในเครือมติชน
มณีรัตน์ ภัทรวุฒิโชติพงศ์ (ภูบาลชื่น) วัย 30 ปี บ้านเกิดอยู่จังหวัดสุรินทร์ เข้ามาใช้ชีวิตชีวิตในกรุงเทพฯนานหลายปีเริ่มต้นอาชีพแรก ด้วยการนำความรู้ด้านสื่อสารมวลชน จากรั้วมหาวิทยาลัยรามคำแหงมาใช้ยื่นใบสมัครเป็นผู้สื่อข่าว ทำงานกับนิตยสารเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มระยะเวลาทำงานประมาณ 1 ปี จากนั้นลาออก กระทั่งก่อนเปิดดำเนินการร้านกรอบรูป ได้ช่วยเหลือกิจการของครอบครัว คือทำมุ้งลวดเหล็กดัด
ด้วยความใฝ่ฝันประกอบอาชีพอิสระมีหน้าร้านเป็นของตนเอง “ไปเรียนวิชากรอบรูปไม้ที่ศูนย์เทคโนโลยีอาชีพ มติชน เมื่อประมาณ ปี 2545 ระยะเวลาเพียงหนึ่งวันกลับทำให้รู้สึกสนุกเกิดความชอบนอกจากได้วิชาความรู้แล้วยังมีเพื่อนเพิ่มขึ้นก็คิดว่าอาชีพนี้ต้องยึดไว้เลี้ยงตัวเองอย่างแน่นอน หลังจากเรียนจบก็ไปหาซื้อเลื่อยมือมาจากคลองถมจำได้ว่าราคา 1,000 กว่าบาท เพื่อมาทดลองสร้างผลงาน ผ่านพ้นไปสองสัปดาห์จึงตัดสินใจเปิดร้าน” จุดเริ่มต้นของอาชีพอิสระที่คุณมณีรัตน์ เล่าให้ฟัง
ทุกวันนี้ทำงานกรอบรูปอยู่ที่ เลขที่ 2100/16 พนาสิน 2 ซอยรามคำแหง24/1โทร02-718-3239หรือ 081-935-9403 เป็นร้านชื่อ “บุญมณี ทรัพย์ทวี เฟรม” เงินลงทุนค่าวัสดุอุปกรณ์ประมาณ 12,000 บาท “ หาซื้อเครื่องมือและวัตถุดิบหลายแห่งเปิดหาจากสมุดหน้าเหลืองบ้าง ไปดูย่านคลองถมบ้าง จากนั้นนำมาทดลองผลิตระยะเวลา สามเดือนแรกลูกค้าน้อยราย” คุณมณีรัตน์ กล่าวถึงกิจการ
เริ่มต้นเปิดกิจการ คุณมณีรัตน์ มองนักศึกษาเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก แต่แล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้มีรายได้น้อย ไม่นิยมใช้บริการ กระทั่งพี่สาวของคุณมณีรัตน์ เข้ามาช่วยหาตลาดให้ นำสินค้าไปเสนอกับพนักงานในบริษัทเดียวกัน ส่งผลให้ยอดสั่งผลิตสินค้ามีตามมา ลูกค้าตอบรับดีขึ้น
“ไม่เพียงแต่พี่สาวเข้ามาช่วยเหลือกิจการเท่านั้น น้องสาวก็ให้การช่วยเหลือด้วย เขาทำงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นของชาวต่างชาติ น้องสาวนำแบบและผลงานไปให้ลูกค้าดู ปรากฎว่าชาวต่างชาติให้ความสนใจ ในที่สุดได้ลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งเพิ่มเข้ามา” คุณมณีรัตน์ เล่าถึงพี่สาวและน้องสาวผู้ช่วยเหลือด้านการตลาด
คุณมณีรัตน์ เปรียบเทียบลูกค้าให้ฟังว่าคนไทยไม่นิยมเปลี่ยนกรอบรูป เรียกว่าใช้จนกระทั่งชำรุดเสียหาย ถึงจะยอมควักเงินในกระเป๋าจ่ายอีกครั้ง แต่ชาวต่างชาติเป็นผู้ชื่นชอบงานศิลปะ ชอบตกแต่งบ้าน สร้างความแปลกตา ในหนึ่งปีจะเปลี่ยนกรอบรูปประมาณ 2-3 ครั้ง เมื่อผลงานละเอียดมีความประณีต ลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นทันที
สองปีกับอาชีพผลิตกรอบรูปจำหน่าย คุณมณีรัตน์ ว่าเป็นอาชีพนำมาซึ่งรายได้ดีจนไม่คิดหันเหไปประกอบอาชีพอื่น ถ้าจะให้ผลงานออกมาดีและมีคุณภาพ ฉีกแนวไปจากรายอื่น ก็ต้องหาความรู้ใส่ตัวนอกจากวิชากรอบรูปที่ร่ำเรียนมาจากศูนย์เทคโนโลยีอาชีพ มติชน แล้ว ยังได้เรียนวิชาพ่นทรายบนกระจก กระจกโครงอะลูมิเนียม ศิลปะภาพนูนบนกระดาษสา เรียกว่าอาชีพใดสามารถนำมาประยุกต์กับงานกรอบรูปได้ จะไม่พลาด ต้องไปรับการอบรม” ความกระตือรือร้นที่คุณมณีรัตน์ เล่าให้ฟัง
เอ่ยถามถึงอุปสรรคปัญหาเกิดขึ้น คุณมณีรัตน์ ว่ามีเข้ามาทุกวัน แต่ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ค่อยๆ แก้ไขไปทีละเรื่อง ยกตัวอย่าง คู่แข่งถือเป็นปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้น การประชาสัมพันธ์ แจกแผ่นพับใบปลิวในช่วงเปิดร้านใหม่ๆ ถือเป็นหนทางหนึ่งที่ดึงลูกค้าเข้าร้านได้
ปัจจุบัน ร้าน บุญมณีทรัพย์ทวีเฟรม ( B.S.Frame ) เริ่มมีลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มมองหาพนักงานเข้ามาช่วยผลิตเพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
อนาคต คุณมณีรัตน์ คิดขยับขยายวางแผนจัดตั้งโรงงานผลิตมุ่งขายส่งและปลีก นอกจากนั้นในอีก สามปีข้างหน้า จะนำภาพผลงานศิลปะซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ออกแสดงให้ผู้สนใจเข้าชม
สำหรับผู้ใดสนใจต้องการประกอบอาชีพผลิตกรอบรูปจำหน่ายคุณมณีรัตน์ แนะนำว่า “เริ่มแรกต้องถามตัวเองก่อนว่าชอบอะไร ต้องการทำอะไร เมื่อถึงคราวปฏิบัติต้องทำให้ดีที่สุด รับผิดชอบหน้าที่ ตรงต่อเวลา ซื่อสัตย์ ใส่ความมั่นใจลงไปมากๆ นอกจากนั้นแล้วต้องพยายามหาช่องทางดีๆ ให้กับตนเอง พัฒนาฝีมือ อย่างต่อเนื่อง หาความรู้ใส่ตัวก่อน จากนั้นเริ่มฝึกฝนจนกระทั่งเกิดความชำนาญและถ้าจะให้ลูกค้ามีเข้ามาอย่างต่อเนื่องจำเป็นต้องออกไปเสนอผลงานกับลูกค้าบ้างบางครั้ง” คุณมณีรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
แหล่งที่มาของข้อมูล :
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
หนังสือ "เส้นทางเศรษฐี นิตยสารในเครือมติชน ปีที่ 10 ฉบับที่ 111 เดือนพฤษภาคม 2547"